นายเชาวน์วัศ สุดลาภา อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (จอมพลประภาส จารุเสถียร) ในรัฐบาลจอมพล ถนอม กิตติขจร นายกรัฐมนตรี อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย 2 สมัย ในรัฐบาลของพลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันท์เป็นนายกรัฐมนตรี และในสมัยนายชวน หลีกภัย 1 เป็นนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครคนที่7 ที่มาจากการแต่งตั้ง สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายการต่างประเทศ (ฯพณฯ ท่าน พลเอกชาติชาย ชุณหะวัณเป็นนายกรัฐมนตรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีด้านการบริหาร พณฯ ท่าน บรรหาร ศิลปอาชานายกรัฐมนตรีเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดลพบุรี รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ประธานคณะกรรมการการศึกษาสภาผู้แทนราษฎร เลขาธิการสันนิบาตเสรีชนแห่งประเทศไทย เป็นเลขานุการคณะกรรมการปราบปรามอาชญากรรมแห่งชาติ ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ผู้อำนวยการกองการเจ้าหน้าที่ สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย รองหัวหน้าพรรคกิจสังคมและผู้ว่าราชการในอีกหลายจังหวัด
นาย เชาวน์วัศ สุดลาภา เป็นอดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร คนที่ 7 และอดีตผู้ว่ราชการและนักการเมืองที่มีบทบาททางการเมืองและการปกครองอย่างมาก เจ้าของนโยบายกรุงเทพสีเขียวโดยปลูกต้นไม้รอบจังหวัดกรุงเทพมหานครในถนนทุกสาย (สมัยเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร) ผู้ดำเนินการสร้างถนนรัชดาภิเษกและในอีกหลายสาย ผู้ก่อตั้งศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) ดินแดง (ร่วมมือกับรัฐบาลญี่ปุ่น) ขณะเป็นผู้ว่าก.ท.ม และเป็นผู้ก่อตั้ง ตลาดนัดจตุจักร สมัยเป็นผู้ว่าก.ท.ม และ เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดในอีกหลายจังหวัด เชาวน์วัศได้เข้าสู่วงการการเมืองได้ทำงานเป็นเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (จอมพลประภาส จารุเสถียร) ในรัฐบาลของจอมพลถนอม กิตติขจร และได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย 2 ครั้ง ใน 2 สมัย ในรัฐบาลของ พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันท์ และในรัฐบาลนาย ชวน หลีกภัย และยังมีผลงานที่โดดเด่นคือการกวาดล้างซุ้มมือปืนจังหวัดเพชรบุรีได้สำเร็จราบคราบในสมัยเป็นพ่อเมืองเพชรบุรีได้ทำการปราบปราบแร่เถื่อนที่จังหวัดพังงาสมัยเป็นพ่อเมืองพังงาปราบปรามโจรเรียกค่าไถ่ในจังหวัดลพบุรีและยังได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดลพบุรี ต่อเนื่อง 4 สมัย (สอบได้ที่ 1 ทั้ง 4 สมัยซ้อน) นอกจากนี้ยังเคยได้รับรางวัลกิตติคุณสัมพันธ์ (สังข์เงิน) ( ครั้งที่ 5 พ.ศ. 2522) จากสมาคมนักประชาสัมพันธ์แห่งประเทศไทย (ทางด้านสาขาการบริหารและการปกครอง) และยังได้รับการก่อตั้งอนุสาวรีย์เชาวน์วัศ สุดลาภา ขึ้นที่ อำเภอกะปงจังหวัดพังงา เพื่อให้เป็นอนุสรณ์แห่งผู้ว่าคนดี และที่สำคัญนายเชาวน์วัศ สุดลาภาได้รับการยกย่องให้เป็นบุคคลสำคัญของจังหวัดลพบุรี
นาย เชาวน์วัศ เริ่มเข้าสู่วงการการเมืองครั้งแรกจากการได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในรัฐบาลจอมพลถนอม กิตติขจร เมื่อ พ.ศ. 2515 ต่อมาก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในคณะรัฐมนตรีชุดที่ 41 สมัย พล.อ. เกรียงศักดิ์ ชมะนันท์เป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อ พ.ศ. 2523 ซึ่งในขณะนั้นนายเชาวน์วัศยังดำรงตำแหน่งข้าราชการพลเรือนเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
ในปี พ.ศ. 2531 นาย เชาวน์วัศได้ลาออกจากราชการเพื่อลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดลพบุรี และได้รับเลือกตั้ง 4 สมัยต่อเนื่อง ตั้งแต่ พ.ศ. 2531 - 2538 และได้รับการแต่งตั้งเป็นรองหัวหน้าพรรคกิจสังคม โดยในช่วงเวลาดังกล่าวได้ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการการศึกษาสภาผู้แทนราษฎร และ ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายการต่างประเทศ (พ.ศ. 2531 - 2535) และรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 (พ.ศ. 2535) รายนามรองประธานสภาผู้แทนราษฎรของไทย ในปี พ.ศ. 2536 ดร.เชาวน์วัศได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในคณะรัฐมนตรีชุดที่ 50 สมัยนายชวน หลีกภัยเป็นนายกรัฐมนตรี (ชวน หลีกภัย 1) นับเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นครั้งที่ 2
นาย เชาวน์วัศ สุดลาภา เกิดวันที่ 1 มิถุนายน 2476 ชีวิตคู่ได้สมรสกับคุณกมลทิพย์ สุดลาภา มีบุตร - ธิดารวม 3 คน ได้แก่